6/21/2555

ซุนนะฮฺในเดือนชะอฺบาน


เชคริฎอ อะหมัด สมะดี
วารสารอัซซุนนะฮฺ ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 ชะอฺบาน 1424

1.
การถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน

เป็นสิ่งที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ปฏิบัติและสนับสนุน โดยมีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺกล่าวไว้ว่า "ท่านนบีมักจะถือศีลอดจนกระทั่งเรานึกว่าท่านจะไม่เว้น และท่านอาจจะงดการถือศีลอดจนกระทั่งเรานึกว่าท่านจะไม่ถือศีลอด และฉันไม่เคยเห็นท่านนบีถือศีลอดครบเดือนหนึ่งเดือนใดเว้นแต่เดือนรอมฎอน และไม่เคยเห็นท่านถือศีลอดมากมายเหมือนที่ท่านถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน"(บันทึกโดยบุคอรียฺและมุสลิม)

และมีรายงานจากท่านอุซามะฮฺ อิบนุซัยดฺ กล่าวว่า "ฉันได้พูดกับท่านนบีว่า โอ้ร่อซูลของอัลลอฮฺ ฉันไม่เคยเห็นท่านขยันถือศีลอดในเดือนหนึ่งเดือนใดเหมือนที่ท่านถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน (หมายถึงถือศีลอดซุนนะฮฺ) ท่านนบีจึงตอบว่า

  

"
นั่น(เดือนชะอฺบาน)เป็นเดือนที่มนุษย์มักจะเพิกเฉยระหว่างเดือน รอยับและเดือนรอมฎอน และเป็นเดือนที่บรรดาการกระทำจะถูกยกและถูกเสนอต่อองค์พระผู้อภิบาลแห่งสากล โลก และฉันชอบให้การกระทำของฉันถูกยกและถูกเสนอขณะที่ฉันถือศีลอด"
(บันทึกโดยอิมามนะซาอียฺและอิมามอบีดาวู้ด; ดู ศ่อฮีฮุตตัรฆีบวัตตัรฮีบ)

ท่านอิมามอิบนุรอยับกล่าวว่า การถือศีลอดในเดือนชะอฺบานมีความประเสริฐยิ่งกว่าการถือศีลอดในเดือนต้อง ห้าม(อัลอัชฮุรุลหุรุม) และการถือศีลอดซุนนะฮฺที่ดีที่สุดคือการถือศีลอดในบรรดาวันใกล้ชิด(ก่อนหรือ หลัง)เดือนรอมฎอน ซึ่งมีตำแหน่งเสมือนการละหมาดซุนนะฮฺก่อนและหลังละหมาดฟัรฎู เพื่อเป็นการปรับปรุงข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติฟัรฎู นับเป็นการละหมาดซุนนะฮฺที่ประเสริฐยิ่งในบรรดาการละหมาดซุนนะฮฺทั่วไป เช่นเดียวกัน การถือศีลอดซุนนะฮฺก่อนหรือหลังเดือนรอมฎอน ก็จะเป็นการถือศีลอดซุนนะฮฺอันประเสริฐยิ่งกว่าการถือศีลอดซุนนะฮฺทั่วไป

และในฮะดีษที่พูดถึงการเพิกเฉยเดือนชะอฺบาน มีบทเรียนให้เราขยันทำอิบาดะฮฺในช่วงเวลาหรือสถานที่ที่มนุษย์มักจะลืมการระ ลึกถึงอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อาทิเช่น การละหมาดหรือทำอิบาดะฮฺระหว่างมักริบและอิชาอฺ เป็นการทำอิบาดะฮฺที่มีความประเสริฐ และบรรดาอัสสะละฟุศศอและฮฺจะชอบทำอิบาดะฮฺในช่วงเวลานี้ โดยมีเหตุผลว่าเป็นเวลาที่คนมักจะเพิกเฉยในการทำอิบาดะฮฺ และการซิกรุลลอฮฺในสถานที่ทำการค้า(ตลาด)มีความประเสริฐมากเพราะเป็นสถานที่ ที่มนุษย์มักลืมซิกรุลลอฮฺ


2. การอ่านอัลกุรอาน

ท่านสะละมะฮฺ อิบนุกุฮัยลฺ กล่าวว่า เขา (ชาวสะลัฟ) จะเรียกเดือนชะอฺบานว่า "เดือนแห่งนักอ่านอัลกุรอาน" ท่านอัมรฺ อิบนุก็อยสฺ เมื่อถึงเดือนชะอฺบานะเลิกทำการค้า และจะขยันอ่านกุรอาน และท่านอบูบักร อัลบัลคียฺ กล่าวว่า เดือนรอยับเป็นเดือนแห่งการปลูก เดือนชะอฺบานเป็นเดือนแห่งการรดน้ำ และเดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการเก็บเกี่ยว

ความประเสริฐของการอ่านอัลกุรอานในเดือนชะอฺบานนั้นเหมือนการถือศีลอด คือ เพื่อให้มุอฺมินได้ฝึกฝนและขัดเกลาตนเอง ให้มีความอยากและความเคยชินในการปฏิบัติ มิฉะนั้น มุอฺมิน จะเข้าสู่เดือนรอมฎอนโดยมีสนิมเกาะอยู่กับอีมานและความปรารถนา จึงต้องขยันขัดเกลา เพื่อขจัดสนิมที่เกาะในหัวใจให้หมดเกลี้ยง เป็นหัวใจที่มีความตั้งใจทำอิบาดะฮฺในเดือนรอมฎอน



3. รักษาอีมานจากความโสมมแห่งชิริก

และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีจากความมุ่งร้ายต่อพี่น้อง

ในบันทึกของอิมามอิบนุฮิบบาน มีรายงานจากท่านมุอ๊าซ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า



"
อัลลอฮฺทรงมองลงมายังบรรดาผู้เป็นบ่าวของพระองค์ในค่ำคืนกลาง เดือนชะอฺบาน และทรงให้อภัยโทษต่อทุกคน ยกเว้นผู้ที่ตั้งภาคีกับพระองค์(ทำชิริก) และผู้มีความโกรธกริ้วกับพี่น้องของเขา"

จากฮะดีษบทนี้ เราจึงต้องค้นหาและตรวจสอบหัวใจของเรา เพื่อขจัดการทำชิริกหรือการศรัทธาต่อผู้อื่นนอกจากอัลลอฮฺ และขจัดความโกรธพี่น้องมุสลิมโดยไร้เหตุผลแห่งหลักการ เพื่อให้หัวใจของเรานั้นเป็นหัวใจอันบริสุทธิ์ จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการอภัยโทษในเดือนชะอฺบาน

ส่วนการทำชิริกนั้นอาจเป็นเรื่องที่บรรดาผู้ศรัทธาประมาท และคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เพราะมีอีมานในหัวใจอยู่แล้ว แต่แท้จริงชิริกนั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวซึ่งทุกคนมีโอกาสทำชิริกได้โดยไม่ รู้สึกตัว แม้กระทั่ง ท่านนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสสลาม ซึ่งเป็นมิตรกับอัลลอฮฺ(ค่อลีลุลลอฮฺ) ก็ยังวิงวอนดุอาอฺต่ออัลลอฮฺ ให้คุ้มครองจากการไหว้รูปเจว็ด ท่านอิบรอฮีม อัตตัยมียฺ กล่าวว่า ใครเล่าที่จะคิดว่าตนเองปลอดภัยจากชิริก แม้แต่นบีอิบรอฮีมยังกลัวชิริกเลย

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ยังเตือนประชาชาติของท่านไว้ว่า


"สิ่งที่ฉันเกรงมากว่าพวกท่านจะปฏิบัติคือ ชิริกเล็ก" ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถูกถามว่า ?ชิริกเล็กนั้นคืออะไร? ท่านจึงตอบว่า "อัรริยาอฺ"

"
อัรริยาอฺ" หมายถึง การโอ้อวด ปฏิบัติอิบาดะฮฺอย่างไม่สุจริตใจ ส่วนการโกรธ อิจฉาริษยา ความเกลียดชัง ที่ปรากฏในหมู่ผู้ศรัทธาอย่างมากมายนั้น สิ่งเหล่านี้จะขัดขวางความเมตตาและการอภัยโทษของอัลลอฮฺ มิให้ปรากฏกับผู้กระทำความดี แม้ว่าเขาจะเป็นมุอฺมินก็ตาม

อิมามมุสลิมได้รายงานฮะดีษจากท่าน อบีฮุรอยเราะฮฺ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

"
ประตูแห่งสวรรค์จะถูกเปิด ทุกวันจันทร์และวันพฤหัส การอภัยโทษจะประสบกับบ่าวทุกคนที่ไม่ทำชิริกทั้งสิ้น เว้นแต่บุคคลที่โกรธกับพี่น้องของเขา จึงมีคำประกาศว่า จงเลื่อนเวลาการอภัยโทษของสองคนนี้ จนกว่าเขาจะคืนดีกัน"


สำหรับค่ำคืนกลางเดือนชะอฺบานที่เรียกกันว่า นิสฟูชะอฺบาน นั้นไม่มีอิบาดะฮฺพิเศษที่ควรจะปฏิบัติโดยเฉพาะ มีเพียงอิบาดะฮฺที่เราเคยกระทำทุกคืน และไม่มีดุอาอฺเฉพาะค่ำคืนนี้ ดังที่ปรากฏกับบางกลุ่ม

การถือศีลอดในเดือนชะอฺบานนั้น ไม่มีข้อห้าม นอกจากในสองวันสุดท้ายของเดือนชะอฺบาน ซึ่งท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ห้ามไว้ เพื่อจำแนกระหว่างเดือนชะอฺบานกับเดือนรอมฎอน ยก เว้นผู้ที่ถือศีลอดซุนนะฮฺเป็นประจำ เช่น การถือศีลอดทุกวันจันทร์หรือพฤหัส แล้วไปตรงกับสองวันนี้ จึงจะอนุญาตให้ถือศีลอดเหมือนปกติ ซึ่งในบันทึกของอบูดาวู้ดและอันนะซาอียฺ มีรายงานจากท่านฮุซัยฟะฮฺ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า


พวกท่านอย่าถือศีลอดล่วงหน้าเดือนรอมฎอน (ก่อนเข้าเดือนรอมฎอน) หนึ่งวันหรือสองวัน เว้นแต่จะตรงกับการถือศีลอดที่พวกท่านถือไว้อยู่แล้ว (คือปฏิบัติเป็นประจำ)"

จากข้อมูลข้างต้น พี่น้องผู้ศรัทธาจึงต้องตระหนักในความประเสริฐของเดือนชะอฺบาน อันเป็นพื้นฐานแห่งการปฏิบัติอิบาดะฮฺอย่างมั่นคงเพราะการขาดความรู้ในความ ประเสริฐ ของการทำอิบาดะฮฺ จะส่งผลให้ผู้ศรัทธาไม่กระตือรือร้นในการปฏิบัติอิบาดะฮฺ จึงต้องแสวงหาสิ่งที่จะปลุกจิตศรัทธา และความปรารถนาในการสะสมผลบุญ โดยเฉพาะในฤดูการทำอิบาดะฮฺ เช่นเดือนชะอฺบานและเดือนรอมฎอน จึงขอฝากไว้กับพี่น้องผู้อ่านให้เป็นบทเรียน ที่ควรจะนำไปเผยแผ่กับคนใกล้ชิดและพี่น้องผู้ศรัทธาทั่วไป

ขออัลลอฮฺทรงประทานเตาฟีก การช่วยเหลือ เพื่อยืนหยัดในการทำอิบาดะฮฺอย่างบริสุทธิ์ใจและสม่ำเสมอ และขอให้พี่น้องทุกท่านมีชีวิตยืนยาว ด้วยสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ อันเป็นเสบียงแห่งการทำอิบาดะฮฺอย่างเคร่งครัดเถิด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น